หน้าแรก
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
แจ้งชำระเงิน
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับเรา
บทความ

มารู้จัก"หยก"กันเถอะ

6 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

มารู้จัก "หยก" กันเถอะ

หยก" Stone of Heavens อัญมณีแห่งสรวงสวรรค์ สัญลักษณ์แห่งคุณธรรมความเจริญ 5 ประการ ใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และมีสติปัญญา เป็นพลังด้านบวก ความสวยงาม ความบริสุทธิ์ ความจงรักภักดี ความเมตตา ความอุดุมสมบูรณ์ และความเป็นอมตะ ความรุ่งเรือง หยก หรือ "ยู่" หรือ "เง็ก" หยก มีหลายสี สีที่นิยม คือ สีเขียว(สีแห่งความอุดมสมบูรณ์ การเจริญเติบโต ในทุกๆทาง) “หยก” แลดูอ่อนโยนแต่หากได้สัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งพลังที่ได้รับจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ในสมัยโบราณ เชื่อว่า หยกเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์ มีพลังอำนาจคุ้มครอง ขจัดสิ่งชั่วร้าย สิ่งอัปมงคล ในสมัยโบราณ เชื่อว่า หยกมีพลังอำนาจ ติดต่อกับพลังที่มองไม่เห็นได้ โดยในหลายพื้นที่ หยกมีค่ามากกว่าทองคำ หยก มีความเย็น สามารถป้องกันร่างกาย ปรับสมดุล ลดพลังความร้อนในร่างกาย ช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก หยก จะนำพาสิ่งดีๆ มาสู่ผู้เป็นเจ้าของ ช่วยป้องกันภัย และนำพาโชคลาภด้านต่าง ๆ มาให้ หยก ถือเป็นเครื่องราง ช่วยป้องกันภัย และการมีอายุยืน

หยก มีความสำคัญอย่างไร
1. ความคงทน
2.ความสามารถในการแกะสลัก
3. สี
4. ความวาว
5. ความหายาก
6.สัญลักษณ์แสดงฐานะทางสังคม
7. การรักษา บำบัด
8. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
9. การลงทุน
10.ศรัทธาและความเชื่อ

พบหยกในที่ใดบ้าง
เรามักจะพบหยกในบริเวณที่มีเปลือกโลกที่มีการชนกันอย่างรุนแรง
หรือในที่ๆมีแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อย
และแผ่นดินบางส่วนมุดตัวลงไป เป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล บริเวณดังกล่าว
จะเกิดความดันและอุณหภูมิที่สูงมาก เรามักจะพบหยกในบริเวณนั้น การเกิดของหยก
ได้นั้นๆ จะต้องมีโซเดียมมากพอ

หยก มีความเหนียว และแข็งมากกว่า อัญมณีประเภทอื่น ๆ แต่ก็สามารถนำมาแกะสลัก ได้สวยงาม นอกจากนี้หยกมีความคงทน เนื้อหยกมีสีสันและลวดลาย ทำให้สามารถรังสรรค์งานที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้พบว่า ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ จะเห็นหยกนำมาใช้เป็นรูป
ปั้น ตราสัญลักษณ์ แผ่นจาน เครื่องประดับ และ สิ่งของต่างๆ

หยกมีหลายประเภท มีหลายสี หลายราคา ราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหลายๆล้าน อยู่ที่สี
ความแวววาว ความแข็งและศิลปินเจ้าของหยกที่รังสรรงานศิลปะแกะสลักออกมาเป็นชิ้นงาน
ซึ่งแบ่งเกรดได้ ดังนี้ค่ะ
A-Jade หยกธรรมชาติ ไม่มีการแต่งเติมใด ๆ หรือ ขัดมันด้วยแว๊กซ์

ฺB - Jade หรือเรียกว่า หยกอาบน้ำ โดยการนำหยกธรรมชาติไม่สวยงาม มาเจียระไน อาจถูกนำมาฟอกสี กัดคราบสนิมเหล็กสีดำ หรือ สีน้ำตาลออก แล้วนำมาอัดโพลิเมอร์ ตามรอยกร่อน

TYPE-C หยกธรรมชาติที่ผ่านการเจียระไน แต่งเติมสี บางครั้งมีการฉีดสี ย้อมสี หรือ จุ่มสี

TYPE-D หยกธรรมชาติเม็ดเล็ก ๆ นำมาหลอมรวมใหม่

ซึ่งบอกไม่ได้ว่า เกรดไหนแพงกว่ากัน อยู่ที่หลายปัจจัย ทั้ง เรื่อง สี ความสวย ความแวววาว ความใสและศิลปินหรือเจ้าของงานชิ้นนั้นๆบางครั้งเราอาจพบหยก ที่มีหลาย TYPE รวมกัน อาจเป็น B+C หรือ C+D อยู่ที่ประเภทและเทคนิคของช่างแต่ละคนค่ะหยกเป็นคุณค่าทางจิตใจ ในประเทศจีนมักนิยมกันทั่วไป อยู่ที่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

หยก มีความวาว จึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ ต่าง ๆ เช่น กำไล รูปสลักต่าง ๆ
จะสังเกตุว่า ในการเจียระไนหยก นิยม เจียหลังเบี้ย ไม่นิยมเจียเหลี่ยม นั่นเพราะ หยกมีความเหนียว แต่มีความวาวในตัว การเจียขึ้นเหลี่ยมจะยากกว่า ใบมีดตัดหยกต้องมีลักษณะพิเศษ รวมถึงช่างต้องมีความชำนาญ ในการเลือกก้อนหยก การตั้งน้ำก่อนตัดเพื่อได้เม็ดหยกที่มีสีสม่ำเสมอ และสวยงาม

หยกคุณภาพสูง เป็นสิ่งที่หายากมาก และ มีความต้องการสูง ซึ่งเป็นที่มาแห่งการประมูลหยก เนื้อสวย เนื้อแก้ว มักมีราคาหลายล้านเหรียญดอลลาร์

เจไดต์ (Jadeite)
มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นโซเดียมอะลูมิเนียมซิลิเกต (NaAl (SiO3)2, Sodium aluminium silicate) มักมีสีเขียวเข้มสดกว่าเนไฟรต์ จัดเป็นหยกชนิดคุณภาพดี อยู่ในระบบผลึกแบบหนึ่งแกนเอียง โดยธรรมชาติมักพบเป็นก้อนเนื้อแน่นประกอบด้วยผลึกขนาดเล็กอยู่รวมกัน มีความวาวตั้งแต่แบบแก้วจนถึงแบบน้ำมัน

หยกเจไดต์มีความแข็ง 6.5-7 มีสีในเนื้อพลอยเฉพาะตัว และมักไม่สม่ำเสมอ มีสีเข้มและจางของแต่ละผลึกรวมกันอยู่ โดยเฉพาะในพลอยก้อนจะมีลักษณะเป็นหย่อมสี พบว่าเกิดอยู่ในหินเซอร์เพนทีน ที่ได้จากการแปรสภาพของหินอัคนีชนิดที่มีแร่โอลีวีนอยู่มาก หรือมีโซเดียมอยู่มาก

เนไฟรต์ (Nephrite) มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมแมกนีเซียมซิลิเกต (Calcium magnesium silicate) อยู่ในระบบผลึกหนึ่งแก่นเอียง โดยธรรมชาติมักพบเกิดเป็นผลึกกลุ่มที่มีขนาดเล็กรูปเส้นใยเดียวกัน หยกเนฟไฟรต์มีความแข็ง 6-6.5 มีความวาวแบบแก้วถึงน้ำมัน สีมีความเฉพาะตัวเหมือนหยกเจไดต์ แต่มีสีเข้มไม่เท่า และมีสีมืดมากกว่า พบว่าเกิดจากหินเดิมที่มีธาตุแมกนีเซียมแปรสภาพด้วยความร้อน

แหล่งหยก jadeite
ได้แก่ พม่า กัวเตมาลา รัสเซีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก อิหร่าน สหรัฐอเมริกา(แคลิฟอร์เนีย) #หยกพม่าเป็นแหล่งหยกที่ดีที่สุดในโลก

แหล่งหยก Nephirte
แคนาดา จีน นิวซีแลนด์ รัสเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี โปแลนด์ เยอรมัน ซิมบับเว ออสเตรเลีย

1. หยก เจไดต์ มีเปลือกลักษณะ คล้ายปีกแมลง
เนื้อในหยาบ คล้ายหยากไย่ มีตำหนิภายในลายเส้นหินสวยงาม ค่าความแข็ง 6.5-7
ค่าความถ่วงจำเพาะ 3.3-3.5 มีความวาวมากกว่า มีสีที่หลากหลาย หยกสีสวยเนื้อแก้ว ส่วนมากจะเป็นหยกเจไดต์

2. หยก เนไฟรต์ เนื้อเนียนคล้ายเทียน เนื้อในมีจุดดำ หรือขาว เนื้อใยละเอียด
ค่าความแข็ง 6-6.5 (หยกอ่อน)
ค่าความถ่วงจำเพาะ 2.9 - 3.1
💚ข้อแตกต่าง คือ
1. หยกเจไดต์ แทนความเข้มแข็ง ด้วยชั้นหิน มลทินภายในแต่ละก้อน ที่แตกต่างกัน รวมถึง มีสีที่หลากหลายมีความวาว ถือเป็นเสน่ห์อย่างมาก
2. หยกเนไฟรต์ มลทินภายใน เนียนละเอียด มีจุดดำ เมื่อนำมาเจียระไน จะมีจุดดำติด หยกเนไฟรต์ที่สวยจะมีจุดดำห่างๆหรือแทบไม่มีจุดดำและมีความวาวคล้ายแก้ว
หยกเนไฟรต์ นิยม นำมาแกะสลัก ซึ่งจะสามารถเห็นลายหินของแต่ละก้อนแตกต่างกัน

หยก เป็น อัญมณี ที่มีความคงทนต่อการกระเทาะแตก หัก หรือบิ่น มากกว่าอัญมณีทั่วไป ในสมัยอดีต หยก เป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับใช้ผลิต เครื่องมือ อาวุธ เครื่องประดับและภาชนะต่าง ๆ จากหลักฐาน พบขวานโบราณในยุควัฒนธรรม หยางเชา หรือ ยุคหินใหม่จีน ประมาณ 5,000-3,000 ปี ก่อนคริสตกาล

หน้ากากหยก ชาวมายา
ในอดีต ชาวจีน ชาวเมารี (ในนิวซีแลนด์) ชาวมายา ชาวโอลเมก และชาวแอชเทค ซึ่งอยู่ในพื้นที่เม็กซิโกและกัวเตมาลาในปัจจุบัน มีการยกย่องเชิดชู ให้หยกเป็นสิ่งของ
มีค่า มักนำมาใช้ในกลุ่มราชวงศ์ หรือ ขุนนาง

เหรียญหยก สมัยราชวงศ์โจว
ช่วง 2070 - 256 ปีก่อนคริสกาล สมัยราชวงศ์เซี่ย ซาง และ โจว หยกเป็นของ
มีค่า ที่มีเฉพาะเชื้อพระวงศ์และขุนนางที่ครอบครองได้

หยกสลักชาวโอลเมก

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หยกเป็นอัญมณีในการแบ่งฐานะทางสังคม รวมถึง การนำมาใช้ประกอบในเครื่องดนตรีระฆังราว CHIME ซึ่งปรากฏในประวัติศาสตร์จีน สมัยราชวงศ์ชิง ปี ค.ศ. 1764 (พ.ศ. 2307)

สร้อยคอหยก The Hutton-Mdivani Jadeite necklace ของ Barbara Hutton
ถูกประมูลโดย The Cartire Collection มูลค่าสูงถึง 27.44 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

การบำบัดรักษา
ชาวจีน เชื่อว่า หยกมีพลังที่สามารถทำให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพดี บางครั้งนำมาใช้นวด หรือ บดกินแทนยา นอกจากนี้ในลัทธิเต๋า เชื่อว่า หยก สามารถปกป้องมนุษย์ออกจากสิ่งชั่วร้ายได้

หยก เป็นวัตถุที่สำคัญรองจากสำริด ในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ยังไม่มีอัญมณีชนิดใด ที่นำมาใช้ ในด้านความเชื่อ ปรัชญา ตำนาน มากเท่ากับหยก และ เพราะสิ่งนี้นำไปสู่การใช้หยกเป็นเหรียญรางวัลในการแข่งขัน กีฬา โอลิมปิค 2008 ซึ่งประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ

แหล่งการค้า หยก ในโลกมีที่ใดบ้าง
1.ตลาดหยก เมืองรุ่ยลี ประเทศจีน
2.ตลาดหยก เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
3.ตลาดหยก ถ.Kansu ประเทศฮ่องกง

ตลาดหยก ในประเทศไทย ได้แก่
1. ตลาดชายแดนแม่สาย - ท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย
2. ตลาดพลอยแม่สอด จ.ตาก

หยก, กำไลหยก, แหวนหยก, สร้อยข้อมือหยก, เครื่องประดับหยก

หยกรวย

สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ

บัตรประชาชน

บุ๊คแบ๊งค์

คุ้มครองโดยLnwPay

ธ.กสิกรไทย

ร้านค้าออนไลน์ Inspired by LnwShop.com (v2)

ตะกร้า

( 0 )

▲

▼

รายการสั่งซื้อของฉัน

เข้าสู่ระบบด้วย

เข้าสู่ระบบ

สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย

สมัครสมาชิก (ฟรี)

รายการสั่งซื้อของฉัน

ข้อมูลร้านค้านี้

หยกรวย

ร้านหยกรวย จำหน่าย เครื่องประดับหยกและพลอยแท้ กำไล,สร้อยข้อมือ,แหวน,ฯลฯ เราคัดหยกและพลอยคุณภาพของแท้ มาออกแบบโดยช่างผู้ชำนาญ รูปแบบสวยงามเมื่อยามสวมใส่ มีเอกลักลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร